กลยุทธ์ : ทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว
แนวรับ : $3,320 หรือ 51,100 บาท
แนวต้าน : $3,420 หรือ 52,000 บาท
ข่าว :
ภาพรวมสถานการณ์:
ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่ง จากปัจจัยหนุนด้านสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศแผนเก็บภาษีชิปสูงถึง 100% และลงนามเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียอีก 25% (รวมเป็น 50%) ปัจจัยเหล่านี้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของราคายังถูกจำกัดด้วยภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-on) ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งพุ่งขึ้นแรง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลัง Apple ประกาศแผนลงทุนเพิ่มในสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการภาษี อย่างไรก็ตาม การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ยังคงสะท้อนว่านักลงทุนยังคาดหวังว่า Fed จะลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
.
วิเคราะห์ทองคำ :
.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ที่ร่วงลงมาเหลือ 3.70% ถือเป็นสัญญาณบวกชัดเจนต่อราคาทองคำ บ่งชี้ว่าตลาดให้น้ำหนักกับโอกาสที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เพื่อรับมือกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจชะลอตัว การลดลงของ Bond Yield ยังช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำโดยตรง ขณะที่ทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ยังคงผันผวน จากปัจจัยที่ขัดแย้งกันระหว่างนโยบายการค้าที่แข็งกร้าว กับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
.
กลยุทธ์ :
ภาพทางเทคนิคแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้กันระหว่างปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของทองคำ กับแรงกดดันระยะสั้นจากภาวะ Risk-on ในตลาดหุ้น การที่ราคาทองคำสามารถทรงตัวอยู่ได้แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นแรง สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังหนาแน่น กลยุทธ์ที่แนะนำคือ การทยอยเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้แนวรับสำคัญที่ $3,320 โดยมีเป้าหมายการปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $3,400 และถัดไปที่ $3,420 แต่หากราคาหลุดแนวรับ $3,320 ควรพิจารณาชะลอการลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์เพิ่มเติม
#ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจ #InterGOLD #อินเตอร์โกลด์ #ลงทุนทองคำแท่ง #ราคาทองวันนี้ #ทองคำแท่ง #ทองคำแท่งราคา
สนใจเปิดบัญชีซื้อขายทองคำแท่ง : คลิก