ทองคำร่วงแรง แดงเป็นแกงพะแนงทั้งพอร์ต

ทองคำร่วงแรง แดงเป็นแกงพะแนงทั้งพอร์ต

. 

———————————————————————————————————————–
.

ตลาดทองคำในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทองคำไทย กำลังอยู่ในช่วงที่ค่อนข้างเงียบเหงา โดยราคาเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 51,500 บาท และมีลักษณะการเคลื่อนที่แบบ “ไซด์เวย์” หรือออกข้างมาตั้งแต่เดือนเมษายนของปีนี้ แม้ว่านักลงทุนมือใหม่อาจรู้สึกเบื่อหน่ายหรือกังวลว่า “ติดดอย” แต่การเคลื่อนที่ออกข้างเช่นนี้ถือเป็น “ข่าวดี” สำหรับการปรับตัวขึ้นในอนาคต เนื่องจากเป็นการพักฐานที่ไม่ลึกและไม่น่ากลัว แสดงให้เห็นว่า โอกาสที่ทองคำจะขึ้นต่อมีมากกว่าโอกาสที่จะลง สำหรับผู้ที่รู้สึกเครียดกับการลงทุนในทองคำช่วงนี้ อาจเป็นสัญญาณว่าลงทุนเกินตัว และควรพิจารณาลดขนาดพอร์ตการลงทุนลงเพื่อคลายความกังวล เพราะทองคำขณะนี้เพียงแค่พักตัว ไม่ได้อยู่ในช่วงขาลง

.

ปัจจัยพื้นฐานหลายประการในขณะนี้กำลัง เป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำ ประการแรกคือ ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดอย่างมาก ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจอาจเริ่มไม่ค่อยดีนัก ซึ่งเป็นบวกต่อทองคำ นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในภาคบริการกำลังเร่งตัวขึ้น โดยมีสัญญาณการขยายตัวของราคาเกินกว่าคาดการณ์ ซึ่งเป็นสถานการณ์เงินเฟ้อที่ส่งผลดีต่อทองคำ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ปริมาณเงินในระบบ (M2) ที่พุ่งขึ้นอย่างมาก เนื่องจากการที่หลายประเทศพิมพ์เงินเพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนงบประมาณด้านกลาโหม การเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องนี้ทำให้เกิดธีมที่ว่า “ทุกอย่างกำลังขึ้น” (All assets go up) ไม่ว่าจะเป็นหุ้น คริปโต หรือทองคำ ยิ่งไปกว่านั้น แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล อย่างการนำหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าสู่แพลตฟอร์มบล็อกเชน ก็เป็นผลดีในระยะยาวต่อทองคำ เนื่องจากทองคำในฐานะสินทรัพย์ทางกายภาพจะเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสมดุล และยังสามารถหลอมรวมกับโลกดิจิทัลผ่านการ Tokenization ได้ ที่สำคัญคือ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการที่สหรัฐฯ ยอมรับว่าจีนเป็น “คู่แข่ง” สำคัญทั้งทางการค้าและการทหาร ซึ่งบ่งชี้ว่าโอกาสในการปรองดองระหว่างสองมหาอำนาจนั้นยากขึ้นมาก และเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญสำหรับทองคำ ทำให้แนวโน้มขาลงที่น่ากลัวที่สุด (คือการปรองดองกัน) เกิดขึ้นได้ยากในระยะอันใกล้ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI, PPI และยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ หากผลออกมาแย่ ก็มีโอกาสที่จะหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นได้

.

ในด้านเทคนิคอล ราคาปัจจุบันไม่ถือเป็นจุดเข้าซื้อที่ดีที่สุด นักลงทุนควรอดทนรอจังหวะที่ราคาย่อตัวลงมา แนวรับสำคัญสำหรับเข้าซื้อทองคำคือ 51,000 บาท และหากราคาลงมาถึง 50,000 บาท ถือเป็น “จุดที่ต้องซื้อ” (must-buy scenario) ซึ่งจะให้ความได้เปรียบอย่างมากแก่นักลงทุน แม้ว่าแนวรับต่ำสุดที่เคยเห็นเมื่อเดือนพฤษภาคมจะอยู่ที่ประมาณ 49,000-49,900 บาท แต่ราคาก็ไม่ได้กลับลงไปทดสอบอีกเลย สำหรับผู้ที่ถือทองคำอยู่แล้ว คำแนะนำคือ ให้ถัวเฉลี่ยต้นทุนเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาที่แนวรับเหล่านี้ ภาพรวมทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่า ทองคำเพียงแค่พักตัว ไม่ได้อยู่ในช่วงขาลง และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อได้ เมื่อมีปัจจัยกระตุ้นที่เหมาะสม ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยเฉพาะหากมีการเปลี่ยนแปลงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed Chair) ไปสู่บุคคลที่มีท่าทีผ่อนคลายนโยบายการเงิน (dovish) มากขึ้น การลงทุนแบบ “Healthy Investment” เน้นย้ำให้รอโอกาสที่ดีที่สุดแทนที่จะไล่ซื้อตามราคาที่กำลังขึ้น เพื่อความสบายใจและผลกำไรในระยะยาว

.

รับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ : https://youtu.be/IV3_fCgfHUc

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @intergold  

คลิกที่ลิงค์สำหรับเพิ่มเพื่อน : https://page.line.me/intergold