📌Intergold Weekly News
สรุปข่าวทองคำ ประจำสัปดาห์ EP178
ประจำวันที่ 01 พฤศจิกายน 2568
.
เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นเดือน “รถไฟเหาะ” ของราคาทองคำอย่างแท้จริง ราคาทองคำไทยปรับลดลงจากจุดสูงสุดราว 67,500 บาท มาปิดเดือนที่ประมาณ 61,400 บาท หรือลดลงกว่า 6,000 บาท โดยมีช่วงหนึ่งที่ราคาหลุดระดับ 59,900 บาท ด้วยซ้ำ สะท้อนถึงภาวะผันผวนอย่างรุนแรงทั้งจากปัจจัยภายนอกและจิตวิทยานักลงทุน
แม้ราคาจะปรับลงแรง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เหนือความคาดหมาย เพราะหลังจากขึ้นแรงตลอดหลายสัปดาห์ก่อนหน้า ตลาดย่อมต้องการ “พักฐาน” เพื่อลดความร้อนแรง การปรับลงในครั้งนี้จึงเป็นการปรับเพื่อสมดุล ไม่ใช่สัญญาณจบขาขึ้นอย่างถาวร นักลงทุนที่เข้าใจจังหวะตลาดย่อมรู้ดีว่าช่วงนี้คือช่วงสะสมและรอจังหวะมากกว่าตื่นตระหนก
สำหรับเดือนพฤศจิกายน ภาพรวมยังคง “นิ่ง” ไม่มีปัจจัยบวกหรือข่าวลบเด่นชัดมากนัก สิ่งที่ต้องจับตาคือประเด็นสงครามการค้า โดยเฉพาะการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และ จีน ซึ่งเพิ่งบรรลุดีลด้าน “แร่หายาก” หรือ Rare Earth ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก ดีลนี้สะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองประเทศแม้จะแข่งขันกันทางเศรษฐกิจ แต่ก็ยังต้องพึ่งพากันในทางผลประโยชน์
ในภาพใหญ่ของเศรษฐกิจโลก สหรัฐฯ ยังถืออำนาจนำทางการเงิน ด้วยระบบที่ผูกพันกับดอลลาร์และนโยบายการเงินของ Fed ซึ่งสามารถพิมพ์เงิน QE QT ขึ้นหรือลดดอกเบี้ยได้ตามต้องการ แต่สิ่งที่ วอชิงตัน กังวลคือ อำนาจนี้อาจถูกท้าทายจากจีน หรือ กลุ่ม BRICS ที่เริ่มสร้างระบบการชำระเงินและสำรองทองคำของตนเอง ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวเชิงรุกของ สหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วง “ทรัมป์” กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง
ปีนี้นับเป็น “ปีแรกของทรัมป์” ซึ่งแน่นอนว่าตลาดจะผันผวน เพราะนโยบายหลายอย่างอยู่ในช่วง “ปรับโครงสร้างใหม่” ทั้งในด้านภาษี การผลิต และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ในอีก 1–2 ปีข้างหน้า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มนิ่งและฟื้นตัว ทองคำอาจไม่ร้อนแรงเท่าช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ดังนั้น ช่วงเวลานี้จึงยังถือเป็นจังหวะที่ทองคำ “เล่นได้” อีกอย่างน้อยหนึ่งปี
นักลงทุนหลายคนอาจรู้สึกตกใจเมื่อเห็นราคาทองร่วงแรง แต่ในความจริงแล้ว สิ่งนี้คือ “บทเรียนแห่งตลาด” ทองคำที่ขึ้นแรงย่อมมีสิทธิ์ลงแรง ตลาดการเงินคือพื้นที่แห่งอารมณ์ เมื่อความโลภถึงจุดสูงสุด ความกลัวก็ย่อมรุนแรงเช่นกัน แต่ผู้ที่เข้าใจและรับความเสี่ยงได้ ยังสามารถอยู่ในเกมต่อได้โดยไม่เสียสมดุลทางใจ เพราะในท้ายที่สุด ราคาทองย่อมหมุนเวียนกลับมาในรอบของมันเสมอ
กลยุทธ์ในช่วงนี้ คือการ “ไม่ตื่นตระหนก” และ “ทยอยสะสมแบบ DCA” เพราะไม่มีใครรู้ว่าระดับ 61,000 บาท คือแพงหรือถูก แต่การลงทุนอย่างมีวินัย คือวิธีเดียวที่ทำให้เราอยู่ในตลาดได้ยาวนาน ผู้ที่เคยผ่านช่วงดอยหรือขาดทุน ต่างรู้ดีว่าการถือทองคำแท่งในระยะยาว มักให้ผลตอบแทนที่มั่นคง ไม่หวือหวาแต่ยั่งยืน
เมื่อมองไปข้างหน้า Fed ยังมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในปี 2026 แม้จะยังแทงกั๊กในรอบเดือนธันวาคมนี้ แต่สุดท้ายแล้ว ทิศทางการเงินผ่อนคลายย่อมสนับสนุนราคาทองในระยะกลางถึงยาว โดยเฉพาะหาก “January Effect” กลับมาทำงานในต้นปีหน้า ซึ่งในอดีตพบว่าถึง 7 ใน 10 ปี ราคาทองมักปรับขึ้นในเดือนมกราคม
.
รับชมคลิปได้ที่ : https://youtu.be/NcxXXICbOGM
อ่าน Content อื่นๆเพิ่มเติม : https://www.intergold.co.th/
ราคาทองวันนี้ : https://www.intergold.co.th/gold-price/
.
#ราคาทองคำ #ราคาทอง #ราคาทองวันนี้ #แนวโน้มราคาทอง #วิเคราะห์ทองคำ #ราคาทองคำวันนี้ #ทองขึ้น #กราฟทอง #กราฟราคาทองคำ #แนวโน้มราคาทองคำ #ทองคำ #ทอง #ทองคำแท่ง #เทรดทองออนไลน์ #GOLD #อัพเดทราคาทองคำ #XAUUSD #USD #gold #ดอกเบี้ย #เฟด #อินเตอร์โกลด์ #บาทอ่อน #เงินบาท
