กลยุทธ์ : พักฐานรอจังหวะใหม่
แนวรับ : $3,900 หรือ 60,000 บาท
แนวต้าน : $4,050 หรือ 62,500 บาท
ข่าว :
ราคาทองคำล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 3,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่งผลให้ราคาทองไทยทรงตัวในโซน 60,000 บาทต่อบาททองคำ บรรยากาศการลงทุนยังไม่คึกคัก ถูกครอบงำด้วย “ความกลัวมากกว่าความโลภ”
อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำสามารถ “ยืนเหนือแนวรับหลักโดยไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ (New Low)” ได้ ก็มีโอกาสที่จะกลับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอีกครั้ง
5 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำในขณะนี้ ได้แก่
- นโยบายภาษีทองคำของจีน-ลดสิทธิการยกเว้นภาษี ทำให้ต้นทุนทองในประเทศสูงขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์ทองคำลดลง
- เงินดอลลาร์แข็งค่า-เงินทุนไหลกลับสู่ดอลลาร์ กดดันราคาทองในระยะสั้น
- ภาวะ Government Shutdown สหรัฐฯ-ยืดเยื้อถึง 36 วัน ทำให้ขาดข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ หากยุติอาจกลายเป็นปัจจัยลบต่อทอง
- แรงเทขายทำกำไร-นักลงทุนทยอยขายหลังราคาปรับขึ้นแรง หากทองสามารถยืนเหนือ 3,800–3,900 ดอลลาร์ได้ จะเริ่มเห็นสัญญาณสะสมใหม่
- คาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed-ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ซึ่งจะหนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้นในระยะต่อไป
.
วิเคราะห์ทองคำ :
.
ราคาทองคำยังอยู่ในช่วง พักฐานเพื่อรอจังหวะใหม่ หลังจากเผชิญแรงเทขายทำกำไรและแรงกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่า โดยมุมมองหลักคือ
- หากทองคำ “ยืนเหนือแนวรับ 3,900 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง” จะถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการสร้างฐานใหม่
- ในระยะสั้น ตลาดยังซึม แต่แรงเทขายอาจเริ่มเบาลงเมื่อเข้าสู่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน
- หากเฟดส่งสัญญาณชัดเรื่องการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งจะกลายเป็นแรงหนุนสำคัญต่อราคาทอง
กลยุทธ์ :
“รอซื้อเมื่ออ่อนตัว (Buy on Dip) ใกล้โซน 3,900 ดอลลาร์ และทยอยขายทำกำไรเมื่อแตะโซน 4,050 ดอลลาร์” สำหรับผู้ที่ถือทองในราคาสูง ควรรอให้ราคาสร้างฐานมั่นคงก่อน เพราะการฟื้นตัวรอบนี้มีแนวโน้มเป็นการค่อย ๆ สะสม ไม่ใช่การดีดตัวแบบ V-Shape
#ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจ #InterGOLD #อินเตอร์โกลด์ #ลงทุนทองคำแท่ง #ราคาทองวันนี้ #ทองคำแท่ง #ทองคำแท่งราคา
สนใจเปิดบัญชีซื้อขายทองคำแท่ง : คลิก

