กลยุทธ์ : รอย่อเก็บของเพิ่ม
แนวรับ : $4,100 หรือ 63,000 บาท
แนวต้าน : ไร้แนวต้าน
ข่าว :
ตลาดทองคำได้รับแรงหนุนหลักจากท่าทีผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หลังการยุติภาวะ Government Shutdown ทำให้ตลาดคาดว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงและหนุนราคาทองคำให้แข็งแกร่งขึ้น
อีกด้านหนึ่ง “นโยบาย Tariff Dividend” ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่เตรียมแจกเงินปันผลภาษีมูลค่า 2,000 ดอลลาร์ต่อคน ถูกมองว่าเป็นการกระตุ้นเงินเฟ้อและเพิ่มความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม ราคาทองยังเผชิญแรงต้านจากภาวะ “Risk-on” ที่นักลงทุนแห่เข้าหาหุ้น หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่ และความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเริ่มคลี่คลาย ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณเตรียมขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อาจจำกัดสภาพคล่องโลกและสร้างแรงกดดันต่อทองคำในระยะกลาง
.
วิเคราะห์ทองคำ :
.
ในภาพรวมราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed และความกังวลเงินเฟ้อจากนโยบายการคลังของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ อาจทำให้ราคาทองปรับตัวอย่างจำกัดในระยะสั้น
ในเชิงเทคนิค กราฟระยะ 4 ชั่วโมงแสดงสัญญาณว่าการพักฐานสิ้นสุดลงแล้ว ราคากำลังทรงตัวในกรอบล่างของแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งถือเป็น “โซนสะสม” ที่ดี โดยระดับ $4,000 ถูกมองเป็นฐานรับสำคัญของรอบนี้
กลยุทธ์ :
กลยุทธ์หลักคือ “รอย่อเก็บของเพิ่ม”
แนวรับสำคัญอยู่ที่ $4,000 / 62,000 บาท และ $4,100 / 63,000 บาท
นักลงทุนสามารถทยอยสะสมในกรอบนี้ โดยมองว่าราคาไม่น่าหลุด $3,900 ซึ่งถือเป็นจุดตัดขาดทุนเชิงเทคนิค ส่วนผู้ที่ถือสถานะ Long อยู่แล้ว แนะนำให้ “ถือต่อ” เพราะโอกาสที่ทองคำจะกลับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปยังคงเปิดอยู่ จากแรงหนุนทั้งด้านนโยบายการเงินและปัจจัยเงินเฟ้อที่ยังไม่คลี่คลาย
#ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจ #InterGOLD #อินเตอร์โกลด์ #ลงทุนทองคำแท่ง #ราคาทองวันนี้ #ทองคำแท่ง #ทองคำแท่งราคา
สนใจเปิดบัญชีซื้อขายทองคำแท่ง : คลิก

