
ห้ามพลาด!โลกเปลี่ยนครั้งใหญ่ทองคำเตรียมพุ่งต่อ
.
—————————————————————————————————————————————————————————————————————————————
.
แม้ว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะแสดงความอ่อนแอลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ทำระดับต่ำกว่า 90 และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในชิคาโกที่หดตัวลงอย่างมาก แต่ภาวะดังกล่าวกลับเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น เพราะตลาดคาดการณ์อย่างมั่นใจถึง 87% ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ธีมหลักที่ผลักดันทองคำในระยะยาว คือ แนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่ที่มีแนวคิดกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินอย่างรุนแรง การกระตุ้นนี้จะส่งผลให้สินทรัพย์ทุกประเภท รวมถึงทองคำ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีโอกาสที่จะมีการทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีหน้า ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นได้อย่างสบาย
.
ในขณะที่สภาพคล่องเตรียมถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบโลก ประเด็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ทวีความรุนแรงขึ้นและเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ทองคำยังคงเป็นขาขึ้น การปรับตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) อย่างรวดเร็วจนต้นทุนการกู้ยืมพุ่งสูงขึ้นกว่า 40 เท่าจากช่วงก่อนหน้า ถูกมองว่าเป็นสัญญาณเตือนถึงการที่เงินทุนขนาดใหญ่กำลังไหลออก และคาดว่าอาจเป็นผลจากการที่จีนเข้าโจมตีพันธบัตรญี่ปุ่นเพื่อ “สั่งสอน” กรณีที่ญี่ปุ่นเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับไต้หวัน หากความตึงเครียดในประเด็นไต้หวันขยายตัวรุนแรงขึ้น มีโอกาสที่ราคาทองคำจะทำ All Time High อย่างรวดเร็ว และทำให้เศรษฐกิจโลกปั่นป่วน หากเกิดเหตุการณ์ฟองสบู่ AI แตกในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นร่วงลงมา แรงขายทองคำเพื่อชำระหนี้ก็อาจเกิดขึ้น แต่ทองคำจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ มาก และจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว (V-Shape) เนื่องจากมีสภาพคล่องพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาด
.
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในทองคำช่วงนี้ การปรับฐานของราคาควรถูกมองเป็น โอกาสในการทยอยเข้าซื้อ (ถัวเฉลี่ย) เพื่อรอผลตอบแทนจากธีมมหภาคขาขึ้น โซนราคาที่ถือว่าได้เปรียบทางต้นทุนอย่างมากสำหรับการเข้าเก็บสะสมคือ 4,000 ถึง 4,100 บาท หากนักลงทุนที่ยังไม่มีของต้องการเข้าซื้อในขณะที่ราคาปรับตัวขึ้นไปแล้ว ควรกระทำด้วยความระมัดระวังและเข้าซื้อในปริมาณที่น้อยมาก เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านต้นทุนที่เสียเปรียบเมื่อเทียบกับนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ซื้อมาก่อน สำหรับผู้ที่มีทองคำอยู่ในมือแล้ว ควร ถือยาวเพื่อรันเทรน โดยมีเป้าหมายที่จะลุ้นเห็นราคาเหนือ 4,300 บาท และมีโอกาสกลับไปทดสอบ High เดิมที่ 4,370 บาท ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า สิ่งสำคัญคือนักลงทุนไม่ควรเดิมพันให้ราคาทองคำลงแรงในช่วงปลายปี เนื่องจากสถิติชี้ว่าในช่วงเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนมกราคม ราคาทองคำมักจะปรับตัวขึ้นถึงประมาณ 80% ดังนั้น การรอเก็บของในโซนที่ได้เปรียบและหลีกเลี่ยงการไล่ราคาในช่วงนี้จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด
.
รับชมเพิ่มเติมได้ที่ : https://youtu.be/mojCwnFiKRs
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @intergold
คลิกที่ลิงค์สำหรับเพิ่มเพื่อน : https://page.line.me/intergold
