fbpx
Card image cap

รู้หรือไม่…เราทุกคนกำลังอยู่ในวงจรแชร์ลูกโซ่มหาโหดกันอยู่โดยไม่รู้ตัว

วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 เวลา 10.29 น.

รู้หรือไม่…เราทุกคนกำลังอยู่ในวงจรแชร์ลูกโซ่มหาโหดกันอยู่โดยไม่รู้ตัว

แชร์ลูกโซ่คืออะไร

ต้องบอกก่อนว่าแชร์ลูกโซ่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนานมาก ทุกยุคทุกสมัย ไม่เคยที่จะห่างหายไปไหนเลย ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนนะครับว่าแชร์ลูกโซ่คือการเน้นระดมทุนจากสมาชิกและจูงใจด้วยผลตอบแทนที่สูง ซึ่งหลักการค่อนข้างจะเรียบง่ายนะครับ คือการนำเงินของผู้ลงทุนมาจ่ายให้กับผู้ลงทุนเองในรูปของการทะยอยจ่าย เช่น จ่ายเดือนละ 20% เป็นระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งเงินที่ได้มาเจ้ามือก็จะนำไปลงทุนต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งมีคนเข้ามาลงทุนมาก เงินทุนก็ยิ่งมากขึ้นไป ตราบใดที่ยังมีเหล่านักลงทุนเข้ามาเรื่อยๆเงินทุนก็จะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สุดท้ายปัญหาก็คือเมื่อถึงจุดหนึ่งจะไม่สามารถหาคนมาลงทุนเพิ่มได้ แล้วจะนำเงินที่ไหนมาเพื่อจ่ายให้กับคนที่ลงทุนอยู่แล้ว เมื่อนั้นแชร์วงนี้ก็ต้องล้มไป นักลงทุนที่ลงทุนไว้ก็เหมือนถือระเบิดเวลาเอาไว้ดีดีนี่เองถ้าถอนตัวทันก็รอดไป ถ้าไม่ทันก็เตรียมตัวเจ๊งได้เลย

งั้นเราลองกลับมาดูแชร์ลูกโซ่ที่พวกเราทุกคนกำลังเผชิญอยู่กันบ้าง เป็นเพราะพวกเราอยู่ในระบบของมัน ผมจึงบอกว่ามันเป็นแชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันก็คือประเทศสหรัฐอเมริกาครับ เหตุผลที่ผมเรียกมันว่าแชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็เพราะ….เรื่องหนี้

เรื่องหนี้
ลักษณะสำคัญของแชร์ลูกโซ่คือการก่อหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะใช้หนี้คืนเลย มันก็เหมือนเราเอาเงินจากคนนึงมา แล้วไปจ่ายปันผลให้อีกคน จากนั้นก็ชวนคนมาลงทุนเพิ่มอีก สุทธิแล้วคือหนี้เราเพิ่มขึ้น ตราบที่ยังมีคนมาลงทุนเรื่อยๆ หนี้ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระบบลูกโซ่ก็จะยังไม่แตก จากภาพหนี้เติบโตขึ้นรวดเร็วโดยเฉพาะปีหลังๆ คำถามที่เราต้องดูต่อคือ หนี้ที่โตขึ้น มัน Productive ขึ้นตามทันมั้ย อันนี้ผมของเอาหนี้เทียบ GDP ละกัน ลองดูกันว่าเป็นยังไง

จากภาพจะเห็นว่าหนี้ต่อ GDP ช่วงหลังนี้โตขึ้นเรียกได้ว่า All time high นั้นหมายความว่าสหรัฐสร้างหนี้เพิ่มขึ้นโดยไม่ได้มีวี่แววว่าจะใช้หนี้คืนเลย แถมหนี้ที่สร้างขึ้นมานั้น กลับไม่ได้เอาไปทำให้เศรษฐกิจเติบโตเมื่อเทียบกับหนี้ที่โตขึ้น หากใครไม่เข้าใจลองจิตนาการง่ายๆ สมมุติเราขายของขาดทุนทุกปี พอเงินหมุนเราใกล้จะหมด เราก็กู้มารันธุรกิจเราต่อ แต่เราก็รันไปแบบขาดทุนนะ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ หนี้เราก็จะโตขึ้นโดยไม่มีวี่แววว่าจะใช้หนี้เลย แต่ธุรกิจเราก็ยังไม่ล้มนะ เพราะยังมีคนให้เรากู้อยู่เรื่อยๆอะ ทุกวันนี้สหรัฐก็มีเงินมาใช้เรื่อยๆเหมือนกัน นั้นคือการทำ QE หรือพิมพ์เงินมาใช้นั้นแหละ และที่สำคัญคือพิมพ์มาใช้แบบไม่จำกัดด้วย แล้วหลังจากนี้ต่อไปจะเป็นยังไง

พอผมมานั่งคิดๆดู แบบนี้จะทำยังไงกันต่อดี โลกจะไปในทิศทางไหน อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ผมว่าระบบการเงินที่เราใช้อยู่ตอนนี้ทำให้เกิดแชร์ลูกโซ่เช่นนี้ขึ้น ทำให้คนที่เครดิตดี กู้ได้เรื่อยๆ ตราบใดที่สหรัฐยังเป็นมหาอำนาจของโลก นั้นคือเค้าจะสามารถก่อหนี้ได้ไม่รู้จบโดยไม่ต้องใช้หนี้เลยอย่างที่เป็นมา ซึ่งตอนนี้มีกลุ่มคนที่พยายามเปลี่ยนระบบการเงินโลกอยู่ นั้นก็คือ Cryto currency ปัจจุบันคนให้ Dollar เป็นตัวกลางในการแรกเปลี่ยนเป็นหลัก หากเปลี่ยนเป็น Cryto แทน แน่นอนว่า Dollar จะมีความหมายน้อยลง ถ้าเป็นแบบนั้น QE ที่กำลังทำกันอยู่ อาจไม่เป็นที่ยอมรับเท่าวันนี้ เงินที่พิมพ์ออกมา ถ้าคนไม่ได้ต้องการ มันก็จะเข้าสู่ Supply ล้นระบบ เงิน Dollar จะอ่อนค่า อาจนำไปสู่วิกฤตครั้งใหญ่ได้ หรืออาจมีมหาอำนาจคนใหม่ขึ้นมาแทนที่สหรัฐก็เป็นได้ ถ้ามีวันนั้นจริงๆ แชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คงต้องจบลงเพียงเท่านี้

คำถามคือแล้วจะส่งผลอย่างไรต่อตลาดการลงทุนทองคำหล่ะ ถ้าเกิดดอลลาร์อ่อนค่าขึ้นมาจริงๆ แน่นอนเลยทองคำจะต้องพุ่งทะยานขึ้นสูงมาก มันจะเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายจากดอลลาร์ไปสู่เงินสกุลอื่น จะเป็นช่วงจังหวะที่นักลงทุนทองคำจะสามารถเข้ามาทำกำไรกันได้…

ขอบคุณที่มา Trader 4.0



ราคาทอง
23 เมษายน 2567 | 14:39:04

ประเภท รับซื้อ ขายออก
LBMA
99.99% (Baht)
41,884

-4.00

41,949

-4.00

InterGold
96.5% (Baht)
40,419

-3.00

40,489

-3.00

สมาคมฯ
96.5% (Baht)
40,400

+50.00

40,500

+50.00

Gold Spot
(USD)
2,310.24

-0.18

2,310.60

-0.19

ค่าเงินบาท
(USDTHB)
-
37.02

0.00

ราคาทองคำย้อนหลัง
ความเคลื่อนไหวกองทุนทองคำ
23 เมษายน 2567 | 14:36:03

SPDR (ton) (USD) HUI (USD)
0.00

0.00

238.60

-0.43