fbpx
Card image cap

หรือไทยอาจจะต้องเข้าร่วมสงครามการค้ากับสหรัฐฯด้วย

วันที่ 1 กันยายน 2561 เวลา 10.56 น.

ไทยผวาสหรัฐฯยกเลิกจีเอสพีกลางคัน หลังทรัมป์สั่งทบทวนรอบแรก 25 ประเทศที่ได้สิทธิฯ อ้างกีดกันการเข้าถึงตลาดของสินค้าสหรัฐฯ ด้านพาณิชย์ระบุเอกชนยังมั่นใจปีนี้ส่งออกจะขยายตัวได้ที่ 9% ประสานเสียงห่วงสงครามการค้า ค่าบาทส่งผลกระทบ

สหรัฐฯ เริ่มท้ารบทางการค้ากับประเทศขนาดเล็กแล้ว โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) แก่ตุรกีที่มีข้อพิพาทตอบโต้ทางการค้าสหรัฐฯ และในเดือนตุลาคมนี้จะเริ่มการพิจารณาทบทวนการให้จีเอสพีในรอบแรกมุ่งเน้นไปที่ 25 ประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งรวมทั้งไทย โดยสหรัฐฯกำลังใช้เรื่องดังกล่าวเพื่อจูงใจให้ประเทศต่างๆ ที่ได้รับสิทธิหันมาเจรจาความตกลงแบบทวิภาคีกับสหรัฐฯ ตั้งคำถามว่าคู่ค้าของสหรัฐฯเหล่านี้ได้เปิดให้สินค้าสหรัฐฯสามารถเข้าถึงตลาดได้อย่างเป็นธรรมและเหมาะสมแล้วหรือไม่

นายบัณฑูร  วงศ์สีลโชติ รองประธานคณะกรรมการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สิทธิจีเอสพีเป็นอำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะยกเลิก หยุดชั่วคราว หรือจำกัดการให้สิทธิตามที่เห็นสมควร หากประเทศที่ได้รับสิทธิมิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในหลายเรื่อง เช่น ไม่ได้เปิดตลาดการค้าให้สินค้าสหรัฐฯอย่างเป็นธรรมและเหมาะสม   ไม่ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ไม่ได้ปฏิบัติในการลดการกีดกันทางการค้าและการลงทุนของบริษัทอเมริกัน รวมถึงลดการกีดกันการค้าบริการ เป็นต้น

“ไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกตัดหรือยกเลิกจีเอสพีได้ทุกเมื่อ แม้โครงการจีเอสพีล่าสุดเราได้รับการต่ออายุไปถึงปี 2563 ก็ตาม ตัวอย่างช่วงที่ผ่านมาสภาผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สุกรแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ร้องเรียนรัฐบาลว่าไทยไม่ยอมออกใบอนุญาตให้นำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ ที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงโดยอ้างว่า ผู้บริโภคสหรัฐฯก็ยังทานได้ ทำให้เราถูกมองว่ากีดกันสินค้าสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีหากไทยถูกสหรัฐฯตัดจีเอสพี มองว่าสินค้าไทยส่งออกไปสหรัฐฯ คงไม่กระทบมาก เพราะส่วนใหญ่แข่งกับสินค้าจีนเป็นหลัก หากไทยถูกตัดจีเอสพีในสินค้าที่เคยเสียภาษี 0% เป็นต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติเช่นอัตรา 10%  ก็คงไม่เสียเปรียบมาก เพราะเวลานี้สินค้าจีนถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษี 25% กว่าพันรายการ”

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวหลังประชุมคณะทำงานประชารัฐด้านการส่งเสริมการค้า ธุรกิจบริการ และการลงทุนในต่างประเทศ (D4) ครั้งที่2/2561 (27 ส.ค. 61)ร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยว ข้องกับการส่งออกกว่า 40 ราย จากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เป็นต้น ในการหารือถึงสถานการณ์ส่งออกครั้งนี้ที่ประชุมยังคาดว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 9% หรือมีมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในส่วนของสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูปที่ครึ่งแรกปีนี้มูลค่าการส่งออกขยายตัว 5% ครึ่งหลังคาดจะยังขยายตัวได้ 5% และภาพรวมทั้งปีจะขยายที่ 5% โดยสินค้าที่ยังขยายตัวได้ดี เช่น ข้าว มันสำปะหลัง กลุ่มอาหาร เป็นต้น ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมครึ่งแรกปีนี้ขยายตัว 13% ครึ่งหลังคาดขยายตัว ได้ 9% และทั้งปีขยายตัวที่ 11% สินค้าที่ยังขยายตัวได้ดี เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า  มันสำเร็จรูป เป็นต้น

“ในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้จะมีการประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง โดยกระทรวงยังคงเป้าตัวเลขส่งออกไว้ที่ 8% และล่าสุดภาคเอกชนประเมินการส่งออกทั้งปีที่ 9% ซึ่งกระทรวงจะนำผลการประชุมกับทูตพาณิชย์มาประเมินการปรับเป้าส่งออกอีกครั้ง ปัจจัยที่ภาคเอกชนยังกังวล คือ ผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน การตอบโต้การค้าในประเทศต่างๆที่เริ่มมากขึ้น และฝากให้รัฐบาลดูแลในเรื่องค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน และคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย”

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

 

#ซื้อขายทองคำแท่ง #ซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ #ทองคำ
#อินเตอร์โกลด์ #InterGOLD #ลงทุนทองคำแท่ง
สามารถติดตามบทวิเคราะห์ได้ที่: https://www.youtube.com/intergoldgoldtrade
 สนใจลงทุนทองคำแท่งหรือติดตามข่าวสารได้ที่
 Website : www.intergold.co.th
 Line : @intergold
 Facebook : https://www.facebook.com/IntergoldPage/
Call : 02 – 2233 – 234



ราคาทอง
20 เมษายน 2567 | 06:53:11

ประเภท รับซื้อ ขายออก
LBMA
99.99% (Baht)
43,133

+2.00

43,208

+2.00

InterGold
96.5% (Baht)
41,611

+2.00

41,691

+2.00

สมาคมฯ
96.5% (Baht)
41,500

0.00

41,600

0.00

Gold Spot
(USD)
2,391.03

0.00

2,391.46

0.00

ค่าเงินบาท
(USDTHB)
-
36.86

0.00

ราคาทองคำย้อนหลัง
ความเคลื่อนไหวกองทุนทองคำ
20 เมษายน 2567 | 06:51:02

SPDR (ton) (USD) HUI (USD)
0.00

0.00

238.60

-0.43