เจรจาการค้าสุดเข้ม..หรือแค่ละครลิง ทองคำผ่านจุดพีคไปแล้วหรือยัง
——————————————————————————————————————-
.
การค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ
สหรัฐฯ และญี่ปุ่นเพิ่งประกาศกรอบข้อตกลงการค้าชุดใหม่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2025 — รวมถึงการเก็บอากรขาเข้าที่ 15% ระหว่างกัน, การลงทุนมูลค่า 550 พันล้านดอลลาร์จากบริษัทญี่ปุ่นในสหรัฐฯ และโครงการ LNG ร่วมในรัฐอะแลสกา
สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) กำลังเข้าสู่การพิจารณาขั้นสุดท้าย โดยคาดหวังว่าจะปิดดีลได้ที่อัตรา 15% เช่นเดียวกับญี่ปุ่น แต่ยังต้องพิจารณารายละเอียดอื่นเพิ่มเติม
ส่วนสหรัฐฯ และไทย อยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติรอบที่ 3 โดยคาดหวังลดอัตราภาษีให้เทียบเคียงกับอินโดนีเซียและเวียดนามที่อยู่ในช่วง 18%–20%
หากไทยไม่สามารถบรรลุข้อตกลงนี้ได้ อาจตกขบวนเศรษฐกิจโลกในอนาคต
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ทรัมป์ได้เยือนสำนักงานใหญ่ใหม่ของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยเป็นการเยือนในลักษณะตรวจงานโครงการปรับปรุง พร้อมทั้งแสดงท่าทีวิพากษ์วิจารณ์ต่อเจอโรม พาวเวลล์ อย่างรุนแรง และเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยโดยทันที
ทรัมป์อ้างว่าโครงการปรับปรุงของ Fed มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 3.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งพาวเวลล์ชี้แจงว่า ตัวเลขดังกล่าวรวมโครงการเก่าที่เสร็จไปแล้ว จึงไม่ถูกต้อง
แม้ทรัมป์พูดถึงความเป็นไปได้ในการปลดพาวเวลล์ออกจากตำแหน่ง แต่แรงกดดันนี้สะท้อนถึงความขัดแย้งทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลาง
ในสถานการณ์เช่นนี้ ตลาดมักเกิดความกังวล และทองคำมักได้รับอานิสงส์ในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนตระหนักว่า พาวเวลล์จะไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นภายใต้การนำของทรัมป์หรือสกอตต์ก็ตาม ซึ่งต่างมีจุดยืนเดียวกันในเรื่องนี้
ในประเด็นของดีลการค้า คาดว่าจะสามารถเจรจาขั้นแรกกับหลายประเทศได้ โดยขณะนี้จีนเริ่มเข้าสู่การเจรจารอบที่ 2 แล้ว
ดังนั้น แม้ว่าสงครามการค้าจะยังคงดำเนินอยู่ แต่อาจผ่อนคลายลงจากเดิม ซึ่งอาจทำให้แรงขับเคลื่อนราคาทองคำลดลงในอนาคต
กลยุทธ์: แนะนำ “รอย่อซื้อ” และ “เล่นสั้น” เท่านั้น โดยมีแนวรับที่ $3,330 และแนวต้านที่ $3,370