ทองคำร่วงลงมาแบบนี้ น่าเข้าซื้อแล้วหรือยัง?
.
———————————————————————————————————————–
.
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ราคาทองคำได้มีการปรับฐานร่วงลงมาในระดับหนึ่ง โดยมีการอัปเดตล่าสุดพบว่าราคาทองคำไทยอยู่ที่ประมาณ 65,900 ถึง 66,000 บาท การปรับฐานครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสภาวะความผันผวนของตลาดโลก ทำให้เกิดคำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนว่า การปรับฐานครั้งนี้เป็นเพียงการพักตัวเพื่อขึ้นต่อหรือไม่ และจุดนี้ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อแล้วหรือยัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ถือยาวมาโดยตลอด ควรจะมีกลยุทธ์ในการรับมือกับความผันผวนระยะสั้นนี้อย่างไร ขณะที่ตลาดกำลังจับตาสัญญาณการปรับฐานครั้งใหญ่ที่อาจจะใกล้มาถึงในเร็ว ๆ นี้
.
แม้ว่าในระยะสั้นทองคำจะมีการปรับฐาน แต่โดยภาพรวมแล้วปัจจัยพื้นฐานมหภาคยังคงสนับสนุนให้ทองคำเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในปัจจัยหลักคือความตึงเครียดทางการเมืองและเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ซึ่งประสบปัญหารัฐบาลชัตดาวน์ ปัญหานี้สะท้อนถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรงระหว่างพรรคการเมือง ที่ต่างฝ่ายต่างยึดถืออุดมการณ์ของตนเองมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ ความอ่อนแอในการปกครองดังกล่าวทำลายความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลอเมริกา และส่งผลให้เกิดกระแสการลดการถือครองดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ “De-Dollarization” ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ปัญหาหนี้สินทั่วโลกที่ยังคงอยู่ และการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้นและทองคำ) ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เงินไหลออกจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่ AI ที่มองว่าอาจเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของ GDP สหรัฐฯ ณ วันนี้ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้กระแสการถือทองคำในระยะยาวยังคงเป็นบวก
.
สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ถือทองคำมาโดยตลอด (โดยเฉพาะผู้ที่มีต้นทุนดี) ควรดำเนินการถือต่อ และไม่จำเป็นต้องขายออกไป เนื่องจากภาพใหญ่ยังเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการสะสมทองคำเพิ่มควรรอโอกาสการปรับฐานครั้งใหญ่ โดยคาดการณ์ว่า จุดที่น่าสนใจในการเข้าซื้อจะอยู่บริเวณ 4,100 ถึง 4,000 (เทียบเป็นทองคำไทยประมาณ 64,800 ถึง 63,800 บาท) ซึ่งเป็นระดับราคาที่คาดว่าจะเกิดการบังคับขาย (Liquidate) ของกลุ่มนักเก็งกำไรที่ใช้เลเวอเรจสูง การลงมาถึงระดับนี้ถือเป็นการปรับฐานที่สมเหตุสมผลและไม่เสียทรงขาขึ้น ส่วนนักลงทุนที่เข้าซื้อตามราคาในช่วงที่ผ่านมาด้วยความโลภและมีต้นทุนที่ไม่ดี อาจพิจารณาลดความเสี่ยงด้วยการขายทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน หากราคาทองคำมีการเด้งขึ้นไปถึงบริเวณ 4,300 (หรือทองไทยประมาณ 66,500 บาท) ก่อนที่จะรอซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่า นอกจากนี้ ควรเน้นการซื้อเป็นทองแท่งไทย เพื่อรับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มไม่แข็งค่า ซึ่งช่วยให้นักลงทุนได้เปรียบด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ หลักการที่สำคัญที่สุดในการลงทุนคือการบริหารเงิน (Money Management) ซึ่งช่วยให้สามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
.
รับชมเพิ่มเติมได้ที่ : https://youtu.be/Ui1nkZQev1U
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @intergold
คลิกที่ลิงค์สำหรับเพิ่มเพื่อน : https://page.line.me/intergold