ทองคำขึ้นแบบไร้ดอย ยังคงรอคอยให้เธอกลับมา
.
———————————————————————————————————————–
.
ราคาทองคำ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 55,900 บาท และอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เป็นขาขึ้น) โดยถูกจัดว่าเป็นช่วงเวลาที่ง่ายสำหรับการลงทุนเนื่องจากราคายังคงปรับตัวขึ้นตลอด ในทางเทคนิคแล้ว ทองคำได้เบรคทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล (All time high) และไม่มีแนวต้าน การปรับตัวลงของราคาที่ผ่านมาเป็นเพียงการย่อเพื่อปรับฐาน (พักฐาน) เท่านั้น ไม่ใช่ขาลงที่แท้จริง ซึ่งหากเป็นขาลงจริง ราคาจะร่วงลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่องเป็นเวลา 2-3 ปี ภาพรวมในปัจจุบันจึงยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นที่ชัดเจน และมีฐานราคาใหม่คาดการณ์ว่าอาจยืนอยู่ระหว่าง 3,700 ถึง 4,000 (สำหรับทองนอก) ภายในปีนี้
.
ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนราคาทองคำแบ่งออกเป็นหลายด้าน ปัจจัยแรกคือ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งมีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดมองว่า Fed อาจจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ (ลดไปแล้ว 1 ครั้ง คาดว่าจะลดอีก 2 ครั้งในเดือนตุลาคมและธันวาคม) การลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นบวกต่อราคาทองคำ แต่ปัจจัยระยะยาวที่มีน้ำหนักที่สุดคือ อำนาจทางการเมืองที่อาจเข้ามาแทรกแซง Fed ในปีหน้า หากนายทรัมป์กลับมามีอำนาจแท้จริง และควบคุมกรรมการ Fed ได้จริง นโยบายหลักของทรัมป์คือการทำให้อเมริกาส่งออกมากขึ้น ซึ่งต้องอาศัย ดอลลาร์อ่อนค่า การทำนโยบายลดดอกเบี้ย พิมพ์เงิน (QE) หรือลดรายจ่ายภาครัฐ ล้วนส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนและเป็นบวกกับทองคำอย่างมาก นอกจากนี้ ปัจจัยมหภาคระดับโลกยังบ่งชี้ถึงกระแสการเสื่อมค่าของเงิน (เงินเสื่อมค่า) ทั่วโลก เนื่องจากการค้าเสรีได้ลดลง และประเทศต่างๆ (เช่น อินเดียและจีน) เน้นการบริโภคภายในประเทศและการพึ่งพาตนเองมากขึ้น รวมถึงความอ่อนแอทางการเมืองและปัญหาหนี้ระยะปลายในยุโรป (โดยเฉพาะฝรั่งเศสและเยอรมัน) ซึ่งอาจนำไปสู่การพิมพ์เงินเพื่อแก้ปัญหาระยะสั้น ซึ่งเป็นบวกต่อทองคำอย่างมากเช่นกัน
.
กลยุทธ์การลงทุนที่ชาญฉลาดในเวลานี้คือการ เน้นที่ทองคำแท่ง เพื่อคว้าความได้เปรียบจากปัจจัยค่าเงินบาท ปัจจุบัน เงินบาทแข็งค่าเกินไปและรัฐบาลรวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังแสดงจุดยืนเพื่อหาทางแก้ปัญหาความแข็งค่าของเงินบาท เนื่องจากภาคธุรกิจส่งออกได้รับผลกระทบหนัก มีแนวโน้มสูงว่าเงินบาทได้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว (botom) และจะหาโอกาสอ่อนค่าลงในภายหลัง สำหรับผู้ที่ถือทองคำในต่างประเทศ (ทองนอก) กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือ การขายทองนอกแล้วสวิตช์มาซื้อทองคำแท่งในประเทศ เพื่อให้ได้เปรียบจากค่าเงินบาททันที หากทองคำนอกย่อลง แต่เงินบาทอ่อนค่าขึ้น ทองไทยก็จะไม่ค่อยลงหรือยังคงขึ้นต่อไป สำหรับผู้ที่ยังไม่มีทองคำ ควรซื้อเป็นทองแท่ง เพราะจะได้รับประโยชน์จากทั้งภาพ Macro (ทองคำขาขึ้น) และความได้เปรียบด้านค่าเงินบาทไปพร้อมกัน คาดการณ์ว่าราคาทองไทยในสิ้นปีนี้จะไม่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันที่ 55,900 บาทอย่างแน่นอน
.
รับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ : https://youtu.be/2515nSNFeo8
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @intergold
คลิกที่ลิงค์สำหรับเพิ่มเพื่อน : https://page.line.me/intergold