กลยุทธ์ : ลุ้นปรับฐานระยะสั้น
แนวรับ : $3,700 หรือ 56,000 บาท
แนวต้าน : –
ข่าว :
ราคาทองคำ (Spot gold) พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 3,728.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังตลาดคาดการณ์เกือบ 100% ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ (ต.ค. และ ธ.ค.) ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างหนัก ในขณะที่ ECB กังวลยูโรแข็งค่าเกินไป อาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินฝืด ขณะที่ PBOC ของจีนยังคงดอกเบี้ยไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพหยวน นโยบายการเงินที่สวนทางกันของธนาคารกลางหลักของโลกเพิ่มความไม่แน่นอนในตลาด และยิ่งหนุนความต้องการทองคำ นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกยังส่งสัญญาณเปราะบาง โดยเฉพาะจีนที่ยอดค้าปลีกและผลผลิตอุตสาหกรรมอยู่ในระดับต่ำสุดรอบปี รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือทองคำมากขึ้น ขณะเดียวกันเงินทุนยังไหลเข้าสู่ กองทุน Gold ETF อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของนักลงทุนรายใหญ่
.
วิเคราะห์ทองคำ :
.
ปัจจัยหลัก: การคาดการณ์ลดดอกเบี้ยของเฟดต่อเนื่องเป็นแรงผลักสำคัญต่อราคาทองคำ นโยบายสวนทาง : ECB และ PBOC ใช้ท่าทีต่างจากเฟด ทำให้ตลาดโลกสับสนและยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เศรษฐกิจโลกชะลอ : จีนซบเซาและภูมิรัฐศาสตร์ตึงเครียด เป็นแรงเสริมให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น Fund Flow : การซื้อสุทธิของ Gold ETF สะท้อนถึงความมั่นใจระยะกลางถึงยาว ด้านเทคนิค : แม้ราคาทองคำทะลุแนวต้านเดิมและทำ All-time High แต่เริ่มมีสัญญาณ Bearish Divergent ในกรอบสั้น อาจนำไปสู่การพักฐาน
กลยุทธ์ :
แนวรับสำคัญ : 3,700 / 3,660 ดอลลาร์ (ประมาณ 56,000 / 55,600 บาท) แนวต้าน : – (ยังไม่มี เนื่องจากทำสถิติสูงสุดใหม่แล้ว) กลยุทธ์ : ราคาทองคำอยู่ในโซน ไร้แนวต้าน หลังทะลุ 3,700 ดอลลาร์ แต่จากสัญญาณเทคนิค นักลงทุนควรระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น กลยุทธ์ที่เหมาะสมคือ “Buy on Dips” รอเข้าซื้อเมื่อราคาย่อในโซนแนวรับ เพื่อเก็บจังหวะขึ้นรอบถัดไป
#ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจ #InterGOLD #อินเตอร์โกลด์ #ลงทุนทองคำแท่ง #ราคาทองวันนี้ #ทองคำแท่ง #ทองคำแท่งราคา
สนใจเปิดบัญชีซื้อขายทองคำแท่ง : คลิก